Home ธรรมะ/ข้อคิด หากฉันจากโลกนี้ไป

หากฉันจากโลกนี้ไป

เตรียมใจหรือยัง เมื่อการพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รักนั้นเป็นทุกข์ 

ยิ่งรักมาก ก็ยิ่งเป็นเหตุให้ต้องทุกข์มากด้วยประการต่างๆ เพราะความรัก ที่เรารู้จักกันนั้น มักจะมาพร้อมกับ ความยึด นั่นเอง

ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล นางวิสาขาก็ร้องไห้คร่ำครวญ เพราะการตiยของหลานสาว พระพุทธเจ้าท่านจึงตรัสปลอบนางวิสาขาโดยให้พิจารณาตามว่า… 

“ดูกรนางวิสาขา 

ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐๐ , ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๙๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙๐,

ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘๐ , ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗๐,

ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๖๐ , ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕๐,

ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔๐ , ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓๐,

ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๒๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒๐ , ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐,

ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๙ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙ , ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘,

ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗ , ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๖,

ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕ , ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔,

ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓ , ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๒ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒,

ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑

ผู้ใดไม่มีสิ่งที่รัก ผู้นั้นก็ไม่มีทุกข์ 

เรากล่าวว่า ผู้นั้นไม่มีความโศก ปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่มีอุปายาส ฯ”

นางวิสาขาได้ฟังและพิจารณาตามดังนั้นแล้ว จึงคิดได้ และตัดอาลัยลงได้ในที่สุด (จาก วิสาขาสูตร)

สิ่งที่แน่นอนอย่างหนึ่งคือ เราทุกคนต้องประสบกับการพลัดพราก และด้วยเหตุที่เราเอาใจไปผูกไว้กับสิ่งที่รัก หรือบุคคลอันเป็นที่รัก เราก็ย่อมต้องทุกข์เป็นธรรมดา เพราะการพลัดพรากนั้นเป็นของธรรมดาโลก

สิ่งที่จะช่วยเราอย่างยิ่งในวินาทีสุดท้าย ก็คือกรรมของเราที่ทำมาตลอดทั้งชีวิตนั่นเอง นั่นคือ ถ้าเราสร้างเหตุที่ดีไว้แล้ว ก็ย่อมมีผลที่ดีรออยู่ข้างหน้า ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลย 

หากตลอดชีวิตนี้ไม่เคยทำ ครุกรรม หรือกรรมหนัก ชนิดที่กรรมใดก็ไม่สามารถมาตัดรอนได้ (คือ ฆ่ามารดา ฆ่าบิดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้า หรือทำให้สงฆ์แตกแยก)และหากมิได้มี อาสันนกรรม อันเป็นกรรมที่กระทำหรือระลึกถึงหนักแน่นเมื่อยามใกล้ตiยจริงๆ กรรมที่จะเป็นตัวให้ผลในยามนั้นก็คือ อาจิณกรรม หรือกรรมที่ทำอยู่เป็นประจำนี่ล่ะค่ะ คิดอย่างไร พูดอย่างไร ทำอย่างไรมาตลอดชีวิต ก็ผลจากกรรมเหล่านี้นั่นเองที่จะรอคิวให้ผล แล้ว กตัตตากรรม หรือกรรมเล็กๆ น้อยๆ ประเภทที่ทำโดยไม่มีความตั้งใจ หรือสักแต่ทำ จึงจะให้ผลในลำดับถัดมาเป็นลำดับสุดท้าย 

ในวันนี้ที่เรายังมีลมหายใจ วันที่เรายังมีเรี่ยวมีแรง อย่าปล่อยโอกาสอันน้อยนิดนี้ให้หลุดลอยไปโดยเปล่าประโยชน์ และมานึกเสียดายเอาเมื่อวันที่ลมหายใจรวยรินเลยนะคะ หมั่นสร้างกุศลกรรมอันดีไว้เป็นเสบียงติดตัวยามเดินทางข้ามภพข้ามชาติ สร้างอาจิณกรรมอันประกอบด้วย ทาน ศีล และ ภาวนา ให้เป็นนิสัย

เราบังคับฝันก่อนนอนไม่ได้ฉันใด เราก็บังคับฝันครั้งสุดท้ายก่อนตiยไม่ได้ฉันนั้น เรารู้แต่ว่า ถ้าวันนี้เรามีความสุข เราจะฝันดี ถ้าวันนี้เราทำเรื่องไม่ดี มีความกังวล เราก็จะฝันร้ายเช่นกัน ณ วินาทีแห่งความตiย เราจะบังคับให้ตัวเองคิดดี มีปีติ ระลึกถึงบุญกุศล ระลึกถึงพระรัตนตรัย เพื่อหวังที่จะไปสุคติภูมิในชั่วเดี๋ยวนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย เราทำได้เพียงหมั่นสร้างเหตุในทางกุศลไว้เรื่อยๆ เพื่อที่จิตจะได้คุ้นเคยและระลึกถึงในวินาทีสุดท้ายเท่านั้น

ความตiยอาจไม่ได้อยู่ไกลตัวอย่างที่คิดนะคะ  พรุ่งนี้อาจเป็นเราเร่งหมั่นทำทาน รักษาศีลให้เป็นนิสัย และโดยเฉพาะหมั่นเจริญสติระลึกรู้กายรู้ใจ เท่าที่จะทำได้ในทุกขณะที่ยังมีลมหายใจเถิดนะคะ เพราะเมื่อเจริญสติอยู่เนืองๆ จนวันหนึ่งเห็นความเป็นจริงของกายของใจแล้ว ความสุขเย็นอันเกิดจากการเป็นอิสระจากพันธนาการทางจิตใจและเครื่องเศร้าหมองทั้งปวง จะมีให้เราประจักษ์ได้ตั้งแต่ชาตินี้ วันนี้ เดี๋ยวนี้ ตรงหน้า โดยไม่ต้องรอจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตหรือกระทั่งภพหน้าชาติไหนเลยค่ะ…

ขอบคุณเรื่องราวดีๆ โดย แพรภัทร ยอดแก้ว 
Thank you photo by pexels, unsplash

Load More Related Articles
Load More By getwellxoxo
Load More In ธรรมะ/ข้อคิด
0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments

Check Also

วิธีสังเกต ผู้หญิงกำลังนอกใจ

5 อาการบอกว่า ผู้หญิงอาจกำลังนอกใจ สำหรับผู้ชายที่กำลัง … …