น้ำ

น้ำตาที่ไหล น้ำใจที่ทำ และน้ำคำที่ให้

“น้ำ” บนโลกใบนี้มีมากถึงสามในสี่
“น้ำ” ในร่างกายของคนเราก็มีมากถึงสองในสาม

สามในสี่ของน้ำบนโลก ปรากฎให้เห็นในรูปของน้ำทะเล และน้ำจืด
สองในสามของน้ำในร่างกาย ก็มีมากพอที่จะช่วยปรับสภาวะทุกอย่างในตัวให้มีความสมดุลย์เกิดขึ้น

“น้ำ” จึงมีความหมายและมีหน้าที่ที่สำคัญต่อความเป็นไปในทุกสรรพสิ่ง ไม่เว้นแม้แต่หยดเล็ก ๆ อย่าง “น้ำตา”

ความหมายของน้ำตาอาจเป็นได้ทั้งความดีใจ หรือความเศร้าสะเทือนใจ อาจไม่ต้องพูดอะไร แต่ทุกครั้งที่หยดน้ำตามันรินไหล มันก็มีพลังบางอย่างที่ส่งให้คนอื่นรู้สึกร่วมด้วยได้ ไม่ว่าจะปวดร้าวไปกับเรา หรือยิ้มให้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

บางคนร้องไห้เก่ง น้ำตามีอยู่แทบจะเต็มตัว เอะอะอะไรก็ร้องไว้ก่อน น้ำตาไหลออกมาได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่บางคนแทบจะไม่มีน้ำตาให้ใครเห็น แต่การไม่ร้องไห้ ไม่ได้แปลว่าเข้มแข็ง และการร้องไห้ ก็ไม่ใช่ว่าเราคือคนอ่อนแอเสมอไป

น้ำตาอาจหมายถึงเรายังมีความรู้สึก เรายังมีอารมณ์พื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ซึ่งบางครั้งก็อาจไม่มีเหตุผลที่มากพอในการเสียน้ำตาของเรา แต่ถ้าอยากปลดปล่อย อยากระบายความอัดอั้นที่อยู่ข้างใน ปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา ภาพตรงหน้าอาจพร่าเลือนไปบ้าง แต่มันก็ช่วยล้างความรู้สึกอะไรบางอย่างออกจากจิตใจเราได้เหมือนกัน

หรืออยากให้ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันยืนยาว สิ่งที่ควรจะต้องมีต่อกันมากๆ ก็คงเป็นเรื่องของ “น้ำใจ” เช่นว่าอะไรที่ทำให้กันได้ ไม่ลำบากจนเกินไป ทำให้เขาซะ เห็นขนมหรือของกินที่อีกฝ่ายชอบ ลองซื้อไปฝากเขาโดยอาจไม่ต้องถาม

การยอมหรือถอยให้กันบ้าง ก็เป็นการแสดงน้ำใจทางหนึ่ง บนความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องมีผู้แพ้ ผู้ชนะ เสียสละตัวเองบ้าง การแสดงออกถึงความเอื้ออาทร ความเห็นอกเห็นใจ การเอาใจเขามาใส่ใจเรา ล้วนแล้วแต่เป็นน้ำใจที่ควรมีให้แก่กัน และ “น้ำใจ” แบบนั้น ก็เป็นสิ่งหล่อเลี้ยงให้ทุกความสัมพันธ์มันยืนยาวต่อไปได้

แม้แต่การพูดจาดี ๆ ก็เรียกว่าเป็นการให้ “น้ำคำ” ต่อกัน เห็นเขาทำงานหนัก ถามไถ่บ้างว่าเขาเป็นอย่างไร เหนื่อยไหม กินข้าวแล้วหรือยัง พูดด้วยความห่วงใย จริงใจ คนฟังก็ย่อมรับรู้ได้ถึงสิ่งนั้น

มีเวลาก็โทรหากันบ้าง บางครั้งแค่โทรไปถามข่าวคราวกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ผลที่ได้มันกลับมาอาจจะมีค่ายิ่งกว่า และอย่าทำร้ายกันด้วยคำพูด ไม่ว่าจะพูดประชดประชัน หรือทำให้คนฟังต้องเจ็บปวด เพราะนั่นไม่ทำให้อะไรดีขึ้น คำพูดแย่ ๆ บางครั้งมันเลวร้ายยิ่งกว่าอะไร สิ่งที่พูดออกไปมันไม่หายไปไหนเลย แต่มันไปอยู่ในความทรงจำของคนฟัง และที่สุดแล้วมันก็กระทบกลับมาที่ตัวคนพูดเช่นกัน

การพูดแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย การพูดแบบรักษาน้ำใจคนฟัง “น้ำคำ” แบบนั้นต่างหาก เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ต้องการได้ยิน เพราะโลกใบนี้ มี “น้ำ” เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ
ร่างกายของเราขาดไม่ได้ ทุกหัวใจก็เช่นเดียวกัน

 

ขอบคุณเรื่องราวดีๆ โดย จันทร์กรกฎ
Thank you photo by pexels, unsplash

Load More Related Articles
Load More By getwellxoxo
Load More In ธรรมะ/ข้อคิด
0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments

Check Also

วิธีสังเกต ผู้หญิงกำลังนอกใจ

5 อาการบอกว่า ผู้หญิงอาจกำลังนอกใจ สำหรับผู้ชายที่กำลัง … …