Home ความรัก/ชีวิต รักจะสร้างสุข หรือรักจะสร้างทุกข์

รักจะสร้างสุข หรือรักจะสร้างทุกข์

สำรวจตนเองดูว่า.. มีรักแต่ละครั้ง มันจะมีทุกข์พ่วงมาด้วยเสมอหรือไม่?

ความรักเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ที่เราไม่สามารถหาเหตุผล

บางคนมีรักแล้วทุกข์มาก บางคนมีรักแล้วทุกข์น้อย

น้อยคนไม่รู้ว่าเป็นเพราะกรรมที่เราทำมันส่งผลให้เรามีใจผูกยึดกับใคร 

“ด้วยกรรมเก่า” จะส่งให้เรามีสุขและทุกข์

 

เช่น เคยไปหลอกใคร ให้เจ็บช้ำ

กรรมก็จะส่งผลล่อลวงใจให้ไปหลงรัก

คนที่จะมารานน้ำใจให้เราทุกข์แบบเดียวกัน 

“ด้วยกรรมปัจจุบัน” จะส่งให้เรามีทุกข์มากขึ้นหรือน้อยลง

ซึ่งขึ้นอยู่กับส่วนผสมกิเลสในใจและความยึดมั่นถือมั่น 

เพราะเรามีโมหะจึงพาใจให้ไปรักอย่างไม่มีเหตุผล 

เพราะเรามีราคะจึงทำให้ใจเราเข้าไปชอบ ไปหวง ติดในรูป ชอบในเสียง และอื่น ๆ 

เพราะเรามีโทสะจึงเกิดความไม่พอใจเมื่อต้องสูญเสีย หรือรู้สึกว่าถูกแย่งไป 

เพราะเรายึดมากจึงทุกข์มาก ยึดน้อยจึงทุกข์น้อย 

แล้วการทำตามอำนาจกิเลสเพื่อให้ได้ยึดถือครอบครองนั้น

จะทำให้ตนและคนที่เราบอกว่ารักนั้นเป็นทุกข์หรือสุข

ถ้ามันทำให้เราหรือคนที่เรารักเป็นทุกข์

เราจะเรียกการทำตามอำนาจกิเลสนั้นว่า ความรักได้หรือ? 

หลายคนอยากมีความรักที่มีความสุข

แต่ก็ไม่เข้าใจว่าความสุขสร้างอย่างไร

อันนี้อยากให้ตั้งคำถามย้อนกลับไปก่อนว่า…

เมื่อไม่รู้ว่า ความสุขคืออะไรแล้วจะสร้างได้หรือ? 

 

ถ้าใจที่มืดเป็นทุกข์ 

ถ้าใจที่เร่าร้อนเป็นทุกข์ 

ถ้าใจที่หนักอึ้งเป็นทุกข์ 

เมื่อเรารู้ที่มาของอาการเหล่านั้นได้ ละเหตุได้ ใจก็เป็นสุข 

อุบายขจัดทุกข์ในรักก็คือ

 

การทำให้จิตเข้าใจด้วยการสั่งสม

การมองเข้ามาในตนเองเวลาทุกข์

ทุกข์เพราะเรื่องอะไรก็แปลว่าเคย

ทำกรรมให้คนอื่นทุกข์มาแบบนั้น

ปัจจุบันเป็นผลของอดีต

รู้เหตุแล้วก็ขัดเกลานิสัยตน

เพื่อจะได้ไม่ต้องไปสร้างเหตุ

แล้วรับผลอย่างเดิมๆ  ไปเรื่อยๆ  

ดูให้ลึกขึ้น ก็ให้ย้อนดูว่าทุกข์เพราะกิเลสตัวใด 

ทุกข์เพราะความอยากของเราใช่ไหม 

ทุกข์เพราะความยึดของเราเองใช่ไหม 

เห็นบ่อยๆ ใจก็จะเริ่มคลาย

ว่าสิ่งเหล่านี้ทำแล้วเป็นทุกข์ ก็อย่า ไปทำตามใจมันสิ 

อุบายสร้างรักให้เป็นสุข

ถ้ารักอย่างกิเลสแล้วทุกข์ก็รักอย่างธรรม

พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสถึงความรักที่ไม่เป็นทุกข์คือ

ได้แก่ การไม่เบียดเบียน และความรักอย่างพรหม

ได้แก่ พรหมวิหาร ๔ คือ 

มีเมตตา ปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข 

กรุณา ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ 

มุทิตา ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี 

อุเบกขา คือ เมื่อทำอย่างเต็มที่แล้วก็วางใจในผล

มีใจเป็นกลาง ไม่หลงไปในทางยึดว่าจะต้องได้ผลดังใจ 

 

นอกจากนี้ยังมีอุบายขั้นพื้นฐานอีกอย่างที่เป็นการขัดเกลาจิตใจ

ไม่ใช่แต่จะแก้ปัญหาทุกข์เรื่องความรักได้

แต่ครอบจักรวาลแก้ปัญหาความทุกข์ทางใจได้ทุกเรื่อง

ก็คือ การสอนจิตให้ฉลาดด้วย การทำทาน รู้จักให้ 

รักษาศีล ให้จิตรู้จักระงับความอยาก 

ทำสมาธิ ให้ใจสงบจากความฟุ้งซ่านและก่อกวนของกิเลส 

และการทำวิปัสสนา เพื่อให้ใจเลิกสำคัญผิดยึดมั่นถือมั่น

เพราะสิ่งทั้งหลายย่อมเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถอยู่ในสภาพเดิม

และไม่ใช่ตัวตนที่เราสามารถบังคับได้

(ทั้งตัวเขา และความรู้สึกเราที่จะเป็นไปตามกรรมเพราะความคุ้นชิน) 

สุขอย่างที่มีเครื่องล่อด้วยกิเลสให้เข้าไปยึดจะส่งผลให้เราทุกข์ภายหลัง

แตกต่างจากสุขอย่างธรรมที่ปราศจากมลทิน และเป็นอิสระ

ทุกข์มากก็ขัดเกลาไป ขัดแรงๆ หน่อย ยิ่งกิเลสเบาบาง

ความยึดติดน้อยลง จะยิ่งมีความสุขมากขึ้น ๆ  

ทุกข์มันเกิดจากใจเราคิดเห็นไม่ตรงไปสร้างกรรมที่ไม่ดีก่อน

พอเกิดผลทางใจก็ไม่รู้จักวิธีรักษา 

ถ้ารู้เหตุรู้ผลอย่างนี้แล้ว เราก็แก้ทุกข์ของเราได้

สร้างรักให้เราและใคร ๆ มีความสุขได้ไม่จำกัด

นี่แหละ สุขทุกข์อยู่ที่ใจเราสร้างเองรับเอง

 

ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จาก sangtean

Thank you photo by pexels, unsplash

Load More Related Articles
Load More By getwellxoxo
Load More In ความรัก/ชีวิต
0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments

Check Also

วิธีสังเกต ผู้หญิงกำลังนอกใจ

5 อาการบอกว่า ผู้หญิงอาจกำลังนอกใจ สำหรับผู้ชายที่กำลัง … …