หากมีสัญญาณเหล่านี้มากกว่าหนึ่งข้อ เตรียมถอยได้เลยก่อนจะเจ็บมากไปกว่านี้

1. รู้สึกว่าการคุยกับแฟนเป็นหน้าที่ ไม่รู้สึกจากหัวใจ

นับวันก็ยิ่งรู้สึกว่าการที่ต้องส่งข้อความไปหา โทรไปปลุก โทรไปบอกนอนหลับฝันดีคือ “หน้าที่” ไม่ให้ความสัมพันธ์จางหาย แต่ใจจริงๆ ไม่ได้อยากทำเลย โทรไปอย่างนั้นแก้เหงา หรือเพราะความเคยชินเท่านั้นเอง ถ้าวันไหนลืมโทรกลับรู้สึกโล่งอก ไม่ต้องอึดอัด รีบคุยรีบวางให้จบๆ ไป

2. ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร อยู่ที่ไหนอีกแล้ว

อยากจะไปไหน ทำอะไรก็แล้วแต่! เมื่อก่อนต้องรายงานแฟนทุก 5 นาทีว่าทำอะไรอยู่ กินข้าวร้านไหน กำลังจะไปไหน แต่เดี๋ยวนี้ทั้งแชททั้งไลน์เงียบหายไปเป็น 2-3 วัน เธอก็ไม่ได้สนใจ เกือบลืมไปแล้วว่ายังมีแฟน

3. รำคาญง่ายกว่าเดิม

เมื่อก่อนพูดอะไรก็ตามใจทุกอย่าง แทบไม่เคยเห็นเขาอารมณ์เสียใส่เลย แต่เวลาผ่านไปแค่อ้าปากจะพูดอะไรหน่อยก็เอาละ ทำไมต้องรีบโกรธขนาดนั้น รำคาญตั้งแต่เห็นหน้ากันแล้ว

4. ไม่ให้เกียรติอีกฝ่ายอีกต่อไป

เมื่อก่อนจะพูด จะทำอะไรต้องคิดถึงอีกฝ่ายแบบคิดแล้วคิดอีก นับถือและให้เกียรติ  แต่เดี๋ยวนี้กลับรู้สึกเฉยๆ ไม่หลงใหลได้ปลื้ม ไม่อยากฟังสิ่งที่เขาพูดอีกต่อไป 

5. ยังคงมองหาคนอื่นๆ อยู่ร่ำไป

ก็ยังรักแฟน เห็นว่าเป็นคนสำคัญคนหนึ่งในชีวิตอยู่หรอก เวลาไปไหนก็มองหาแต่คนหน้าดีที่ถูกใจ ทั้งที่ยังจับมือกับแฟนตัวจริงอยู่ทั้งคน รู้นะว่ามันผิด แต่อยากมีคนมาทำให้ชีวิตตื่นเต้นเร้าใจกว่านี้

6. อยากได้ช่องว่าง และความเป็นส่วนตัว

ทำไมต้องมาวนเวียนอยู่ข้างๆ ตัวตลอดเวลาเลยนะ อึดอัด ต้องการความเป็นส่วนตัว ทั้งที่เมื่อก่อนแทบจะขอร้องให้เขามาคุย

7. เริ่มคิดว่าอยากจะเป็น “โสด”

ความคิดที่ว่า ถ้าเราเป็นโสด ชีวิตคงดีกว่านี้เนอะ เริ่มแวบเข้ามาในสมองมากขึ้นเรื่อยๆ มีแฟนก็เหมือนไม่มี แต่บางคู่แม้จะตัวติดกันทุกวัน ก็อยากหนีแฟนไปแชทกับหนุ่มคนอื่นอยู่ดี

8. มีคนอื่น

คบคนเดียวไม่พอซะแล้วสิ พอแฟนเผลอ อีกฝ่ายก็เริ่มเข้าแอพหาคู่ แชทหาหนุ่มหรือสาวคนอื่นๆ ใช้คำพูดหื่น 18+ อย่างไม่ละอายฟ้าดิน กะว่าถ้าแฟนจับไม่ได้ก็ไม่เลิกคุย

9. ไม่รับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายอีกต่อไป

จากที่แคร์ความรู้สึกกันทุกครั้ง เริ่มเมินเฉย เย็นชาต่อความคิดและความรู้สึกของแฟน ต่อหน้าอาจจะใช้คำพูดปลอบใจให้แฟนรู้สึกดี แต่จริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกขนาดนั้น ไม่ได้สนใจขนาดนั้น

10. อยู่กับแฟนแล้วเหนื่อย เหมือนถูกสูบพลังงานในตัวออกไปหมด

ทุกครั้งที่ใช้เวลาอยู่กับแฟน เธอจะรู้สึกอ่อนเพลีย แห้งเหี่ยว เฉาเหมือนดอกไม้ที่ไม่ได้ถูกรดน้ำมาเป็นเดือน เหมือนถูกสูบพลังงานที่มีออกไปจนหมด ไม่มีอารมณ์แม้แต่จะขยับตัวหรือเอื้อนเอ่ยคำพูดใด ก็พยายามทำให้สถานการณ์ดีขึ้นนะ แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการทะเลาะบ้านแตกอยู่ดี

11. เห็นแต่ข้อเสีย ของอีกฝ่าย

เมื่อก่อนชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ไปหมด! เห็นแต่ข้อดีของแฟน อะไรๆ ก็สวยงามเหมือนอยู่ในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เริ่มเห็นข้อเสียของเขาทีละจุด นานวันก็เห็นข้อเสียเต็มไปหมด กลบข้อดีที่เคยมีไปจนหมดสิ้นซะงั้น

12. ไม่เล่าเรื่อง “ชีวิตประจำวัน” ให้แฟนรับรู้อีกแล้ว

เมื่อก่อนเล่าตลอดว่าไปไหน เช้า สาย บ่าย เย็นจนบางทีเขาก็รำคาญ แต่นานวันก็เริ่มเบื่อ

13. เวลาอยู่ด้วยกันกลับรู้สึกว่า “น่าเบื่อ”

จากที่เมื่อก่อนมีเรื่องให้เม้ามอยตลอดเวลา ตั้งแต่เรื่องฟ้าฝนอากาศ ข่าวประจำวัน เพื่อนพี่น้องรอบข้าง หรือแม้แต่คำหวานที่บอกรัก คิดถึงกันทุกวัน แต่ตอนนี้แค่มองหน้าก็นกกาบินว่อน สตั๊น ไม่รู้จะหยิบเรื่องอะไรมาพูด ปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบงำๆ หนักเข้าก็เกิดบรรยากาศมาคุ อึดอัดซะงั้น

14. ไม่คิดถึงอีกฝ่ายเลย

เธอสามารถใช้ชีวิตประจำวันไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีใบหน้าของแฟนแวบเข้ามาเลย! แม้ว่าเขาจะหายไปเป็นวันหรือ 2-3 วันเธอก็สามารถลืมได้อย่างง่ายดาย

15. ไม่อยากคุยกับแฟน เพราะความเห็นของเขา

เมื่อก่อนก็รู้สึกนะว่าแฟนเป็นคนฉลาด มีความคิด ทัศนคติดีเยี่ยม จะให้ฟังเขาพูดปราศรัยเป็นชั่วโมงๆ ก็ยังไหว! แต่ปัจจุบันนี้เหรอ แค่ต้องทนฟังให้ครบ 5 นาทียังแทบแย่ ทำไมเขาถึงพูดแต่อะไรที่น่าเบื่อ

16. ไม่เห็นอนาคตร่วมกันเลย

หัวข้อบทสนทนาของเธอและแฟนไม่มีคำว่า ” อนาคต ” ร่วมกันเลย ถ้าพูดถึง 5 ปี 10 ปีข้างหน้า สิ่งที่จะได้รับคืออนาคตของอีกฝ่ายคนเดียว เช่น จะไปเรียนต่อ,เลื่อนตำแหน่ง,เปิดร้านอาหารของตัวเอง หากถามถึงชีวิตร่วมกัน ความเงียบจะมาเยือน เหมือนชีวิตข้างหน้าไม่มีพื้นที่เหลือพอให้อีกคนมายืนคู่กันอีกแล้ว