ในยุคสวยเลือกได้ หล่อฟาดเรียบ : โดย พระมหาสมปอง

อาตมาไม่เถียงที่เราทุกคนมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเอง แต่ที่แน่ๆ “การเลือกคน” ก็ไม่ใช่ “การเลือกส้มเขียวหวาน” ที่จะหยิบๆโยนๆ ให้ช้ำ แถมซ้ำยังแกะชิมลูกโน้นลูกนี้เสียด้วยแหน่ะ

การซื้อของ ถ้าเลือกไม่ดีก็อาจได้ที่มีตำหนิกลับบ้าน ให้ได้เจ็บใจเล่น แต่ถ้าเลือกมากๆ ก็มักจะโดนแม่ค้าด่าด้วยสายตา “ทำไมไม่ซื้อเสียที (วะ) หยิบซะผักคะน้าช้ำไปหมดแล้ว”

หรือไม่ก็โดนพนักงานขายแฝงตัวเป็นเงาอยู่ด้านหลังพร้อมแผ่รังสีอำมหิตมาให้เสียวสันหลังวาบๆ ทุกที พอเลือกน้อยไปก็ดันเจอดีเจอพวกย้อมแมวขายเสียนี่ โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ

แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องเลือกๆ แบบนี้ ต้องยกให้หนุ่มสาวสมัยนี้ล่ะคุณโยม เพราะคนพวกนี้เขาช่างเลือก ยิ่งตอนนี้ที่กำลังฮิตกันอยู่ ก็เรื่องของการเลือกในแบบ “สวยเลือกได้” หรือ “หล่อฟาดเรียบ”

“ก็ผมมีสิทธิ์เลือกนี่ครับหลวงพี่ จะเอาใครมาเป็นแฟนง่ายๆ ไม่ได้หรอก หลวงพี่เป็นพระ ไม่เข้าใจหรอก”

หนอยแน่!!! มันน่าเอาก้านมะยมฟาดน่องให้แตกลายงา ถ้าธรรมะไม่เข้าใจความรักคงไม่มีใครหนีรักมาบวชหาทางสงบกันโครมๆ และถ้าธรรมะไม่เข้าใจความช้ำ คงไม่มีใครแห่ไปนั่งสมาธิเรียกสติกันตูมๆ หรอก

อาตมาเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่า เราทุกคนมีสิทธิ์เลือก ถ้าอยากได้ของดีก็ต้องเลือกมากๆ หน่อย ยิ่งการเลือกแฟน เลือกเนื้อคู่ด้วยแล้ว ยิ่งต้องเลือกให้มากกว่าปกติ จะดูแค่เหงือกแดง ตาใส เกร็ดแน่น เหมือนปลาไม่ได้หรอก มันต้องดูไปถึงตับถึงก้างโน่นถึงจะดี พันเอกนายแพทย์ พงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา ได้กล่าวไว้ว่า “ผู้ชายทุกวันนี้จะเลือกผู้หญิงที ไม่ได้ดูแค่ภูมิศาสตร์ แต่ต้องดูถึงประวัติศาสตร์ว่าเธอสูญเสียเอกราชมาแล้วกี่ครั้ง”

เคยมีคุณโยมประเภท “สวยเลือกได้” มานั่งปรับทุกข์เรื่องการเลือกคู่ให้อาตมาฟังเล่นๆ ที่วัด

“หลวงพี่คะ หนูไม่รู้จะเลือกใครเป็นแฟนดี ตอนนี้หนูคบอยู่ 3-4 คน คนนึงก็เจ้าชู้ขี้เล่นถูกสเป็กที่สุด อีกคนก็ใจเย็นเป็นที่ปรึกษาที่ดี อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น อีกคนก็รวยแถมยังใจดี ส่วนอีกคนก็หล่อกระชากใจเลยแถมยังอารมณ์ดีอีกต่างหาก หนูจะเลือกใครดีคะหลวงพี่ ทำไมไอ้ข้อดีพวกนี้มันไม่รวมอยู่ในคนคนเดียวกันก็ไม่รู้ จะได้ไม่ต้องเลือกมาก…คิดมากแบบนี้”

อาตมาได้ฟังแล้วก็ปลง มีเยอะขนาดนี้ก็รีบๆ เลือกแล้วปล่อยคนที่เหลือ ไปให้คนอื่นบ้างก็ดีนะคุณโยม ประเทศไทยยังมีสาวโสดอีกเยอะที่อาจจะรอผู้ชายตัวเลือกที่อยู่ในกำมือคุณโยม

“โลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ” ไม่ว่าจะสิ่งของ หรือแม้แต่มนุษย์ก็ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหมดทุกอย่าง บางคนหน้าตาไม่ดีแต่จิตใจงดงาม บางคนพูดจามารยาทดีแต่จิตใจแย่ก็มี ฉะนั้น การจะหาแฟนด้วยวิธีรักเผื่อเลือก เพื่อหวังว่าจะได้คนที่ดีที่สุด ก็ไม่อาจการันตีได้ว่า คนที่เราเลือกนั้นจะเป็นคนสมบูรณ์แบบที่สุดและเหมาะกับเราที่สุด…ล้ำลึกมาก (ใส่ดอกจันเน้นความสำคัญไป 500 ดอกได้เลยคุณโยม)

น่าเสียดายนะคุณโยม ถ้าเราจะปล่อยให้ความรักแบบจับปลาสองมือจะมาบดบังทัศนะวิสัยในการเลือกคู่ที่แท้จริงของเรา จนหมดโอกาสที่จะใช้เวลา สติ และปัญญาของตัวเองพิจารณาคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างจริงจัง

วันนี้ต้องไปเที่ยวกับคนนั้น แป๊บๆ ก็ต้องไปกับอีกคนหนึ่งต่อ ปุ๊บๆ ก็ต้องไปกินข้าวเย็นกับอีกคนหนึ่ง แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาศึกษากันอย่างจริงใจ…จะเอาโอกาสที่ไหนมาแชร์ความคิด ความรู้สึกกัน

เหมือนเราอ่านหนังสือกองหนึ่ง อ่านเล่มนี้ได้สองหน้าก็เปลี่ยนไปอ่านเล่มโน้นอีกสามหน้า แล้วก็ไปอ่านเล่มนู้นอีกสองหน้า แบบนี้ก็ไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าเราหนังสือเล่มนี้จะให้อะไรกับเราได้

แต่ลองเลือกหนังสือมาสักเล่มซิ เราอาจจะเลือกเพราะปกสวย ออกแบบดี ชื่อเรื่องน่าสนใจ พออ่านจนจบ เราก็อาจจะชอบหรือไม่ชอบเลยก็ได้ แต่อย่างน้อยขอให้เชื่อเถอะว่าเราจะได้รับสิ่งดีๆ จากการอ่านแน่นอน เช่นเดียวกับแฟน เจอหน้าถูกใจถึงลองคบลองศึกษากันด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจ ถ้าเข้ากันได้ก็เป็นโชคดีของเรา แต่ถ้าต้องเลิกกันก็ถือเป็นบทเรียนที่ดีที่จะสอนตัวเอง…มันจะเสียเวลาสักแค่ไหนเชียว

และแม้ว่าอาตมาจะเชื่อว่าการเลือกก็มักจะทำให้เราได้ค้นหาสิ่งดีๆ เพื่อตัวเอง แต่อาตมาก็เชื่ออีกเช่นกันว่าคงไม่มีคุณโยมคนไหนยิ้มแฉ่งได้แน่ ถ้ารู้ว่าตัวเองกลายเป็นตัวเลือกของใคร และคงไม่มีใครอยากเป็นตัวเลือกเช่นกัน เพราะเมื่อไหร่ที่เราทำให้คนอื่นดูด้อยค่า ตัวเราเองก็จะกลายเป็นคนไม่มีค่าพอที่จะได้เจอคนดีๆ เช่นกัน

ผู้ชายบางคนเมื่อรู้ว่าตัวเองกลายเป็นตัวเลือกของหญิงที่ตนรักถึงกับรำพึงมาเป็นบทกลอนว่า

“เรารักเขาข้างเดียวเหมือนเกลียวเชือก
เขารักเราเผื่อเลือกหารู้ไม่
เขาไม่รักเราแล้วก็แล้วไป
อย่าเสียใจอกเอยกระเทยมี”

ส่วนผู้หญิงบางคนเมื่อรู้ว่าตัวเองกลายเป็นตัวเลือกของชายที่ตนรักถึงกับรำพึงเป็นบทกลอนว่า

“เกลียดรักที่จำเจ
เกลียดเสน่ห์ที่รุนแรง
เกลียดรักที่เสแสร้ง
เกลียดอย่างแรงคนหลายใจ”

ให้กำลังใจคนที่ตกเป็นตัวเลือกของคนอื่นนะคุณโยม อย่าไปคิดว่าถ้าเขาไม่เลือกเราแสดงว่าเราไม่มีค่าสำหรับเขา แต่ให้คิดอยู่เสมอว่าเรามีค่ามากเกินว่าจะไปเป็นตัวเลือกของใคร เขาต่างหากที่ไม่คู่ควรกับเรา ไม่คู่ควรกับความรักดีๆ ของเรา

แล้วดวงอาตมาก็สมพงษ์กับพวกคู่ผัวเมียละเหี่ยใจ อุตส่าห์เดินเล่นหลบๆ เลียบข้างกำแพงวัดแล้วแท้ๆ ยังไปเจอเขางอนกันอยู่ จะเดินหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว

“นมัสการค่ะหลวงพี่ วันนี้ว่างมากเหรอคะถึงมาเดินเล่นอยู่แถวนี้ได้”
“เอ้า…โยมปิ๋มนี่ยังไงกัน ทักแปลกๆ วันนี้อาตมากลับจากไปบรรยายธรรมไวกว่าปกติ ก็ขอเดินคุยกับต้นไม้ในวัดบ้างเถอะ แล้วนี่เป็นอะไรกันอีก ทำหน้าเป็นกะทิบูดอีกแล้ว”

“ก็พี่กล้วยซิคะ เขาก็รู้ว่าหนูกลัวหมา เมื่อกี้ตอนหมาเห่าหนูก็ไปหลบหลังเขา เขาดันมาว่าว่าหนูเดินยังไงให้หมาเห่า คิดดูซิคะตอนคบกันแรกๆ ยุงไม่ให้กัด แมลงวันไม่ให้ตอม แทบจะเคี้ยวข้าวแทนหนูด้วยซ้ำ เพราะกลัวหนูเมื่อยปาก แถมยังเคยช่วยหนูไม่ให้ถูกรถชนอีก แต่ดูเขาทำกับหนูตอนนี้สิคะ เมื่อก่อนนะ มีคนมาจีบหนูตั้งเยอะแยะ แต่หนูก็เลือกเขา รู้งี้เลือกคนอื่นก็คงดี”

“โยมกล้วยทำไมทำอย่างงั้นล่ะ ไม่ดีนะเนี่ยเป็นแฟนกันแล้ว ต้องปฏิบัติต่อกันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย”

“ผมก็ทำเหมือนเมื่อก่อนตอนคบกันแรกๆ นั่นแหละครับหลวงพี่ ไม่ได้ต่างจากเดิมเลย”

“ก็ทำไมไม่ปกป้องเขาเหมือนเดิมล่ะ ปกป้องเหมือนตอนที่ช่วยโยมปิ๋มจากรถชนไง แบบนี้ไม่ใช่เหรอที่โยมชนะใจโยมปิ๋มได้”

“สมัยก่อนผมไม่ได้ปกป้องปิ๋มมากมายนะหลวงพี่ ผมก็เป็นแบบนี้ล่ะ ตอนนั้นที่มีรถเบรกแตกกำลังวิ่งจะมาชน ไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างๆ มันวิ่งหนีไปก่อนแล้ว ก่อนมันหนีมันยังถีบผมเข้าไปหารถเสียอีก แล้วก็บังเอิ๊ญญญญ ผมก็เซไปชนปิ๋ม เราสองคนถึงได้ล้มไปอีกทางหนึ่ง เลยไม่โดนรถชน ปิ๋มก็คิดว่าผมแมนมากที่ช่วยเขา ถ้าไอ้คนนั้นมันไม่วิ่งไปเสียก่อน ผมน่ะวิ่งคนแรกเลย”

ก็ถูกของโยมกล้วย เสมอต้นเสมอปลายไม่เปลี่ยนเลย งั้นก็คงจะเป็นโยมปิ๋มแล้วล่ะที่ “เลือกแฟนผิด”…ก่อนเลือกใครเป็นคู่ก็ดูกันให้ดีๆ แล้วกันนะคุณโยม ว่าที่เห็นๆ อยู่น่ะของจริงหรือว่ามายาให้หลงผิดชั่ววูบ…เจริญพร

ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จาก dhammadelivery 

Thank you photo by pexels, unsplash