มีความผิดไหนที่ร้ายแรงอะไร จนผู้หญิงหนึ่งคน จะทนให้อภัยผู้ชายต่อไปไม่ได้อีก?
มีหลากหลายคำตอบ ทั้งโกหก ติดการพนัน และอื่นๆอีกมากมาย
และคำตอบที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ ให้อภัยไม่ได้นั้นคือ “การนอกใจ”
แต่ก็ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่ยอมให้อภัย ด้วยเหตุผลเดียว คือ ฉันให้อภัยได้ เพราะ ” รัก”
แต่แค่รักเฉยๆ ไม่พอ ผู้หญิงคนนั้น คงต้อง “รักมาก” ด้วย
เพราะถ้าไม่รักมากจริงๆ คงทนเห็นคนที่ “มากรัก”
ไปมีสัมพันธ์กับใครต่อใครอีกไม่ได้แน่ๆ
บางครั้ง การให้อภัยบ่อยๆนี่แหละ ที่เป็นสาเหตุให้ผู้ชาย มองไม่เห็นความผิดอันร้ายแรงนั้น
ของตัวเองจนปล่อยให้มันกลายเป็นความเคยชิน
ความเคยชิน ที่เลวร้ายที่สุด คือ ความเคยชินในการทำผิด
อารมณ์ประหนึ่งพ่อแม่รังแกฉัน
เคยจ่ายยาให้คนไข้ HIV ส่วนใหญ่คนที่มารับยาจะไม่ใช่ตัวคนไข้เอง
แต่จะเป็นภรรยาหรือแฟนแทน
และจากการคุยผ่านมาหลายๆเคส แฟนหรือภรรยามักไม่ใช่คนที่เป็นพาหะของเชื้อทั้งนั้น
เพราะสาเหตุสำคัญ.. คือผู้หญิงคนอื่น
ฉันจึงเกิดความสงสัยขึ้นในใจ และอดไม่ได้ที่จะถามความคิดเห็นจากพี่ชายว่า
รู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงคนไหนสะอาดจริง?
พี่ของฉันตอบว่า ก็ไม่รู้สิ แต่มันสามารถสังเกตได้จากลักษณะทางกายภาพ หรือกลิ่นได้?
เอิ่ม.. ฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกัน ว่าเขาคิดกันแบบนี้
ถึงจะป้องกันยังไง โอกาสการติดโรคร้ายก็ยังมีอยู่
เพราะบางโรคถึงแม้จะใส่ถุงยางอนามัย แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ 100%
แล้วคนที่มารับกรรมต้องคอยดูแลสามีหรือแฟนที่ติดเชื้อ จะเป็นใคร
ก็คงหนีไม่พ้นภรรยาหรือแฟนของเขาเอง
ส่วนผู้หญิงที่เขาไปติดโรคนั้นมา ก็คงจะต้องไปรักษาตัวเองเช่นกัน
มีบางคนบอกว่า ถ้าแฟนหรือสามีเป็นเอดส์ ก็เลิกๆมันไปเถอะ จะคบต่อทำไม
แต่ถ้าวันหนึ่งคุณรักใครซักคนมากจริงๆ คุณจะเข้าใจว่าทำไม เขาถึงอยู่ด้วยกันต่อได้
คนที่สามารถอยู่และดูแลคนที่ทำร้ายจิตใจตัวเองได้
คนนั้นต้องอยู่ด้วยความรักและความเมตตาที่แท้จริง
และที่สำคัญเขาต้องสามารถมองข้ามเรื่องเพศไปได้ด้วยเช่นกัน
เคยอ่านหนังสือของพระไพศาล วิสาโล มีคนตั้งคำถามมาว่า
“คนรักหลอกลวงควรให้อภัยหรือให้โอกาสเขาไหม?”
คำสอนของพระไพศาลได้เขียนบอกไว้ในหนังสือ คือ
การให้อภัยกับการให้โอกาสนั้น เป็นคนละเรื่องกัน
หมายความว่า ถึงแม้คุณจะให้อภัยเขา
แต่ก็อาจตัดสินใจไม่คบกับเขาอีกต่อไป อย่าเอามาปะปนกัน
นั่นคือสิ่งที่ผู้อ่านจะต้องตัดสินใจเอง ว่าจะให้อภัยแต่ไม่ให้โอกาส
หรือให้ทั้งสองอย่าง หรือเลือกไม่ให้เลยซักอย่าง?
แต่ในทุกการให้อภัย และการกลับมาเริ่มต้นใหม่ อะไรๆมักไม่เหมือนเดิมเสมอ
คงต้องใช้เวลา เพื่อประสานรอยร้าวให้กลับมา อย่างมากอาจจะแค่เกือบเหมือนเดิม
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำอะไร ควรคิดให้รอบคอบก่อนลงมือทำ
ผู้ชายหลายคนที่เจ้าชู้มักอ้างเหตุผลว่า “รู้ผิดชอบชั่วดีหมด แต่อดไม่ได้”
เลยทำไปโดยไม่ได้คิดว่าจะทำให้ใครเสียใจบ้าง หรือแม้กระทั่ง
“ตอนนั้นมันก็รู้สึกผิดนะ แต่ก็คึกคะนอง ตื่นเต้นดีเลยทำ
แล้วค่อยกลับไปขอโอกาสใหม่กับคนรักอีกก็ได้ เพราะยังไงเขาก็คงยอม”
ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นกับคนไทยที่มีหัวใจศรัทธาในพระพุทธศาสนา
เพราะวัฒนธรรมของเราไม่ใช่วัฒนธรรมฟรีเ-ซ-ก
แต่ก็อาจจะมีบางคนไปอยู่ต่างประเทศมานานจนชินกับวัฒนธรรมตะวันตก
เลยมองเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา
ถ้าคนเรารู้จักพอ มีสติ ควบคุมตัวเองได้ เรื่องร้ายๆคงไม่เกิดขึ้น
และอย่าทำให้คนอื่นเสียใจจนกลายเป็นเรื่องปกติ จะดีกว่านะคะ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ โดย LumiAil2
Thank you photo by pexels, unsplash
